วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คอมพิวเตอร์กับการแก้ปัญหาการศึกษาไทย

บทความเรื่อง คอมพิวเตอร์กับการแก้ปัญหาการศึกษาไทย

             ปัญหาการศึกษาของไทยเริ่มมาจากวัฒนธรรมคนไทยที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาว่าให้เชื่อฟังครูบาอาจารย์ ครูในสมัยก่อนจึงดุและนักเรียนจะเชื่อฟังมาก นักเรียนจะกลัวไม่กล้าถามหรือกล้าตอบทำให้ปลูกฝังมาจนถึงปัจจุบันในปัจจุบันก็ยังคงเป็นระบบฟังครูอย่างเดียวเด็กไม่กล้าที่จะคิด ไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ไม่เป็น เมื่อเจอปัญหาเด็กหาทางแก้ไขที่ถูกต้องไม่เป็น เป็นระบบป้อนเข้าอย่างเดียวไม่มีการแลกเปลี่ยนความคิด สนใจใฝ่ความรู้ด้วยตนเองน้อย การสอนในโรงเรียนก็มีหลากหลายมาตรฐาน เครื่องมือ สื่อการสอนก็มีความแตกต่างกัน โรงเรียนรัฐบาลหรือเอกชนต่างจังหวัดมีสื่อพวกนี้ไม่เพียงพอกับการเรียนการสอนซึ่งต่างจากในกรุงเทพ ปัญหาพวกนี้ในปัจจุบันระบบการศึกษาได้ใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยแก้ไขเรื่องของการศึกษาที่ล่าช้าพวกนี้ คอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีส่วนสำคัญกับการพัฒนาผู้เรียน และเพื่มทางเลือกในการเรียนรู้ของผู้เรียนมากขึ้น พัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ที่กว้างไกล มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์จากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับ ครูก็จะมีรูปแบบวิธีการสอนที่ี่เน้นความแตกต่างของผู้เรียนมากขึ้นเข้าใจและพร้อมที่จะพัฒนาทั้งเด็กเก่งและเด็กอ่อนในเวลาเดียวกัน การเรียนการสอนเปลี่ยนจากบทบาทจากครูเป็นผู้ป้อนข้อมูลให้นักเรียนมาเป็นผู้ถ่ายทอดหรือผู้ชี้แนะแนวทางการศึกษาให้กับนักเรียนแทน ประเทศไทยมีการนำเอานวัตกรรมใหม่ทางการศึกษาเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพของผู้เรียน โดยเฉพาะ อินเทอร์เน็ต ระบบการศึกษาได้วางรากฐานและกำหนดเป้าหมายจาการใช้ประโยชน์ของเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกมุมโลก สามารถตอบสนองการเรียนรู้ การค้นคว้าหาความรู้ได้เป็นอย่างดี ทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ เช่น จักระบบห้องสมุด การเรียนการสอนทางไกล เป็นต้น มีการใช้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรสื่อสารการเรียนการสอนแบบ อีเลิร์นนิ่ง มีการนำเสนอผ่านคอมพิวเตอร์ ด้วย ตัวอักษร ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง เป็นต้น การเรียนรู้แบบนี้เน้นให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้ด้วยตนเอกผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ ผู้เรียนได้เรียนตามความสนใจของตนเอง ครู นักเรียน หรือเพื่อนร่วมชั้นสามารถติดต่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ทุกที่ ทุกเวลาเหมือนอยู่ในห้องเรียนจริง ทำให้ผู้เรียนได้ใช้ทั้งจินตนาการ ความคิดอย่างกว้างขวางในการเรียนรู้มากขึ้น

           การนำเอาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีต่างๆมาใช้ในกระบวนการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดความรู้และเพิ่มทักษะให้ผู้เรียนและที่สำคัญเพื่อให้ผู้เรียนบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะครูที่ต้องนำเอาไปใช้กับนักเรียนเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนการสอน จากที่ให้เด็กท่องจำเพียงอย่างเดียวมาเป็นการให้ความรู้ พัฒนาความคิดด้วยตนเองทำให้ไม่เกิดความเบื่อหนาย มีความสนใจ ทำให้เด็กอยากเรียนรู้เพื่อสนองความเจริญก้าวหน้าของผู้เรียนและให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาสามารถเรียนรู้และเข้าสังคมในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี การเรียนรู้ผ่านคอมพิวเตอร์ทำให้เด็กใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ มีความคิดกว้างไกลสามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเองและที่สำคัญพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น